ม่านจีบ Pleat Curtain
รูปแบบม่านจีบเป็นการตัดเย็บด้วยการจับหัวผ้าม่านมาเย็บทำให้เป็นจีบ 3จีบ สามารถเลือกผ้าที่จะนำมาตัดเย็บได้ทุกประเภท เช่น ผ้าทึบแสง ผ้าโปร่ง สามารถทำม่าน 2 ชั้นได้ ม่านจีบสามารถใช้ได้กับรางโชว์และรางลูกล้อ ที่เป็นรางตัวเอ็ม หรือ รางตัวซี ซึ่งเป็นรางที่ใช้งานง่าย สะดวกในการดูแลรักษา ราคาไม่แพงเป็นที่นิยมใช้มากที่สุด ม่านจีบเป็นม่านสไตล์คลาสิกที่ดูเรียบง่ายสามารถใช้ตกแต่งได้กับทุกๆห้อง
ม่านคอกระเช้า Loops Curtain
รูปแบบม่านคอกระเช้าเป็นการตัดเย็บที่ทำได้ง่าย และการติดตั้งก็ทำได้ง่าย สามารถตกแต่งม่านเพิ่มเติมด้วยลูกเล่นต่างๆเช่น การเย็บติดกับกระดุม หรือทำโบว์ผูกติดผ้าม่าน ควรเลือกผ้าที่นำมาตัดเย็บมีสีในโทนเดียวกันกับราวม่าน และไม่มีลวดลายใดๆมากนัก จะเหมาะกับห้องที่ต้องการความเก๋ น่ารัก ดูเป็นลักษณะงานฝีมือ ม่านคอกระเช้าเป็นม่านที่ง่ายต่อการติดตั้งและดูและรักษาง่าย สามารถถอดผ้าม่านมาซักได้ง่าย
ม่านพับ Roman Curtain
รูปแบบม่านพับเป็นการตัดเย็บที่ต้องร้อยเชือกเพื่อการบังคับปิดเปิดขึ้นลงในแนวดิ่ง เป็นม่านที่ได้รับความนิยมมากเพราะความที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย มีลักษณะเป็นชั้นพับซ้อนทับกันเมื่อดึงม่านเปิดขึ้นด้านบน การเลือกผ้าควรเลือกผ้าสีพื้นหรือผ้าลายแถบ เหมาะกับห้องที่ต้องการตกแต่งแนวทันสมัย เน้นสีที่ดูเรียบ สบายตา สามารถตกแต่งได้กับทุกห้องหรือโถงบันได ม่านพับจำเป็นที่ต้องใช้คู่กับราง ที่เรียกว่ารางม่านพับตัวรางเป็นอลูมิเนียม อุปกรณ์ประกอบรางเป็นพลาสติก
ม่านหลุยส์ Louise Curtain
รูปแบบม่านหลุยส์เป็นการตัดเย็บที่ต้องอาศัยความปราณีต และการออกแบบที่สวยงาม ม่านหลุยส์จะใช้ผ้าหลายชนิดผสมผสานกันเพื่อให้เกิดความงดงาม เช่นชายครุยหรือลูกไม้ สามารถเลือกผ้าได้หลากหลายตามความต้องการ เช่น ผ้าม่านทึบเนื้อดี มีลวดลายสีสันสวยงาม หรือผ้าโปร่ง สามารถทำม่าน 2 ชั้นได้ ม่านหลุยส์จะบ่งบอกถึงความหรูหราของห้องที่ตกแต่งได้เป็นอย่างดี
ม่านห่วงตาไก่ Pierced Curtain
รูปแบบม่านห่วงตาไก่เป็นการตัดเย็บผ้าด้วยการตอกผ้าให้เป็นรูแล้วนำตาไก่มาติดกับผ้าด้านบน ส่วนใหญ่เน้นการโชว์ ตาไก่ รางโชว์ หัวรางโชว์และอุปกรณ์ สามารถติดตั้งได้ง่ายและทำเป็นม่าน 2 ชั้นได้ การตกแต่งทำได้หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับรางโชว์ และหัวรางและอุปกรณ์ โชว์ สามารถเลือกผ้าได้หลากหลายตามความต้องการ การบังคับการเปิดปิดผ้าด้วยการใช้มือลากผ้า หรือ ใช้ด้ามจูง ม่านห่วงตาไก่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแบบมีสไตล์ จึงได้รับความนิยมมาโดยตลอด
ม่านแป๊ป Rod Pocket Curtain
รูปแบบม่านแป๊ปเป็นการตัดเย็บผ้าด้วยการจับจีบผ้าด้านบนให้มีลักษณะย่น เพื่อสอดหุ้มรางโชว์ เน้นการโชว์การออกแบบม่าน การโชว์ความงามของผ้าและผลงานการตัดเย็บ ม่านแป๊ปควรใช้ผ้าที่มีความงามเป็นพิเศษ หรืออาจเพิ่มการตกแต่งอื่นๆ ที่จะช่วยให้ม่านสวยงามมากขึ้น เช่น การติดพู่ การติดลูกไม้หรืออุปกรณ์ประดับอื่นๆ การเปิดผ้าจะใช้วิธีการรวบผ้าไปไว้ด้านซ้ายและขวาของม่าน
ม่านน้ำตก Austrian Curtain
รูปแบบม่านน้ำตกเป็นการตัดเย็บให้ม่านมีลักษณะเป็นชั้นๆ เน้นความปราณีตในการตัดเย็บและการเลือกใช้ผ้า ควรเลือกใช้ผ้าที่ดูหรูหราจะเลือกใช้ผ้าโปร่งหรือผ้าทึบก็ได้ สามารถทำเป็นม่าน 2 ชั้นได้ การบังคับการเปิดปิดจะเป็นลักษณะขึ้นและลง ม่านรูปแบบนี้จะสร้างความดึงดูดให้กับม่าน และสร้างความภูมิฐาน โอ่อ่า อลังการให้กับสถานที่ได้เป็นอย่างดี
ลักษณะของม่านมี 2 แบบ คือ
1. ม่านที่ทำงานเปิด-ปิด โดยการยกผ้าขึ้นลง ได้แก่ ม่านพับ ใช้ผ้าลายทางหรือผ้าสีพื้นจะทำม่านแบบดูสวย ถ้าเป็นผ้าลายดอกทำม่านชนิดนี้จะไม่ค่อยสวย จุดเด่นของม่านชนิดนี้คือผ้าจะไม่กองอยู่ข้างๆม่าน เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการความเรียบหรูแบบสไตล์โมเดิร์น การควบคุมแสงของม่านชนิดนี้จะสามารถคุมแสงเมื่อเปิด - ปิด (การยกขึ้น-ลง) แสงที่ส่องผ่านจะเป็นแสงที่สว่างหรือมืดขึ้นอยู่กับผ้าที่ใช้ แต่ม่านชนิดนี้มีข้อเสียคือจะมีแสงลอดออกมาช่วงระหว่างรอยต่อของม่าน กรณีที่ทำ 2 ชุดต่อกัน และถ้าทำชุดใหญ่มากๆ จะดูไม่ค่อยสวย และควรเลือกใช้รางม่านและอุปกรณ์ให้เหมาะสม
2. ม่านที่ทำงานเปิด-ปิด โดยการลากผ้า แบบแยกกลาง เปิดซ้าย หรือเปิดขวา ม่านชนิดนี้เป็นม่านที่สามารถบังแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี สามารถควบคุมแสงได้ดีโดยเลือกเปิดกว้างหรือเปิดแคบ จุดเสียของม่านแบบนี้คือเวลาเปิดม่าน ผ้าม่านจะมากองรวมกันด้านข้างทำให้ดูรกหรือเกะกะ บริเวณผนังด้านข้างห้องที่เป็นประตูหรือหน้าต่าง ถ้ามีพื้นที่น้อยเวลาเปิดม่าน ผ้าม่านจะบังประตูหน้าต่างบางส่วน ควรเลือกใช้รางม่านให้เหมาะสม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม >>> http://line.me/ti/p/%40menhealththailand
หรือ @menhealththailand
หรือ @menhealththailand
ดูเว็บไซต์ได้ที่ >>> www.menhealththailand.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น